วันพฤหัสบดีที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

Abidal นักกีฬาหัวใจไม่เคยยอมแพ้


มองอย่างตอร์ : เอริค อบิดัล นักกีฬาหัวใจไม่ยอมแพ้

….สวัสดีครับ โลกของกีฬามักมีเรื่องมหัศจรรย์และเหนือความคาดหมายเสมอ อย่างบอลถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ใครจะไปเชื่อ เต็ง 1 อย่าง บาร์เซโลน่า ยอดทีมแห่งยุคนี้ และ เรอัล มาดริด ไม่สามารถผ่านไปเล่นรอบชิงชนะเลิศที่ อัลลิอันซ์ สเตเดี้ยมได้ หลังจาก เรอัล มาดริด ไร้ดวงจุดโทษพ่าย บาเยิร์น มิวนิค ของ จุ๊ปป์ ไฮย์เกส ส่งผลให้เสือใต้แห่งบาวาเรีย บาเยิร์น มิวนิคทะลุเข้าชิงชนะเลิศ แถมยังได้ลงเล่นในรังเหย้าของตัวเองที่ใช้จัดแข่งนัดชิงชนะเลิศ ส่วนบาร์เซโลน่า น่าเสียดายกว่าใครเพื่อน ออกนำไปก่อน 2-0 แถมได้เล่นในคัมป์ นู และมีตัวผู้เล่นมากกว่าเซลซี ทีมเยือนที่ใช้โค้ชชั่วคราวอย่าง โรแบร์โต ดิ มัตเตโอขัดตาทัพคุมทีม จอห์น เทอร์รี่ กัปตันเซลซี ไปเล่นนอกเกมใส่ อเล็กซิส ซานเซซ ต้องทนเล่น 10 คนตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงแรก แถมต้องเจอกับโคตรทีมที่มีเกมรุกดุดันสุดๆ แต่สุดท้ายเซลซีไล่มา 1-2 ในทดเจ็บครึ่งแรก และยิงประตูตีเสมอในช่วงทดเจ็บครึ่งหลังอีกหนึ่งลูก จบเกมเซลซี บุกไปเสมอ บาร์เซโลน่า 2-2 รวมผลสองนัดเซลซีเข้ารอบ จะบอกว่าเซลซีอุดแหลก เล่นไม่สวยงามก็ยังไงอยู่ จริงอยู่บาร์ซ่าบดขยี้เซลซีทั้งเกม ขึงเกมรุกฝั่งเดียว แต่บาร์ซ่าแพ้แท็คติคของเซลซี ที่ลงมาเล่นเกมรับอย่างมีวินัยและอดทน ทำเอาบาร์ซ่าเจาะไม่ได้ สุดท้ายแพ้ภัยตัวเองจากลูกสวนกลับ แม้จะไม่สวยงามแต่ก็สู้กันด้วยแท็คติก น่าเสียดายแทนแชมป์เก่า หลังจากปีก่อนแข้งอาซูลกราน่า คว้าแชมป์ที่สนามนิว เวมบลีย์ และคนที่ชูถ้วยแชมป์คนแรกคือ เอริค อบิดัล นั่นเอง ... 

....เรื่องราวของ เอริค อบิดัล เริ่มได้รับความสนใจมากขึ้น หลังจากที่เขาป่วยหนักก่อนจะหายกลับมาช่วยทีม ก่อนที่เขาจะมีส่วนช่วยให้ทีม น็อค แมนยูฯ ในรอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ และได้รับเกียรติจากเพื่อนร่วมทีมรวมถึงสโมสร ให้ชูถ้วยบิ๊กเอียร์เป็นคนแรก ท่ามกลางความยินดีของแฟนบอลและคนที่ติดตามข่าวของเขา
เอริค ซิลเวียน อบิดัลนี่คือชื่อเต็มของเด็กหนุ่มจากเมืองลียง ประเทศฝรั่งเศส เขาเริ่มต้นเล่นฟุตบอลกับสโมสร ลียง-ดัวร์เซอเร่ ทีมฟุตบอลท้องถิ่น เขาได้รับการเซ็นสัญญาอาชีพครั้งแรกกับสโมสร โมนาโก หลังจากเล่นที่โมนาโก สองปีก็ย้ายไปร่วมทีม ลีลล์  ภายใต้การทำทีมของ โคล้ด ปูแอล ปั้นเขาพอมีชื่อเสียงในระดับนึง จึงตัดสินใจย้ายไปเล่นให้ โอลิมปิก ลียง ในปี 2004 ทีมยักษ์ใหญ่และเป็นบ้านเกิดของเขา ซึ่งนั้นเป็นจุดเริ่มของอบิดัลอย่างแท้จริง เขางัดฟอร์มที่ยอดเยี่ยม แข็งแกร่งและสมบรูณ์แบบ ได้รับการยอมรับว่าเป็นฟูลแบ็กที่ดีสุดในลีกเอิง และโชว์ฟอร์มเก่งช่วยให้ลียงคว้าแชมป์ลีกเอิงได้ถึง 3 สมัยซ้อน ในช่วงเวลา 3 ปีที่เขาค้าแข้งให้ทีมโอลิมปิก ลียง ...

...ในนามทีมชาติเขาเป็นหนึ่งขุนพลหลัก ชุดคว้ารองแชมป์โลก ฟุตบอลโลก 2006 ประเทศเยอรมัน ฟอร์มอันยอดเยี่ยม บวกกับพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง ทำให้ บาร์เซโลน่า ยักษ์ใหญ่ในสเปน ยอมควัก 9 ล้านปอนด์ คว้าอบิดัลมาร่วมทัพ เขายึดตัวจริงได้ตั้งแต่ย้ายเข้ามาร่วมทีม เป็นแนวรับที่ไว้ใจได้ ดาวเตะชาวฝรั่งเศสกลายเป็นที่รู้จักทั้งโลก หลังบาร์ซ่าคว้าแชมป์ลาลีก้า 3 สมัย แชมป์โกปาเดอ เรย์ แชมป์บอลถ้วยอื่นๆอีกมากมาย รวมถึงยูฟ่าแชมเปี้ยนลีคส์ 2 สมัย จะเรียกได้ว่า เขากวาดมาหมดทุกแชมป์กับทีมฟุตบอลที่ดีที่สุดแห่งยุคอย่าง บาร์เซโลน่า.. ชื่อเสียง เงินตรา เข้ามาถาโถมใส่เขาแบบไม่ทันตั้งตัว เขาเป็นขวัญใจของแฟนบอลแคว้นกาตาลุนญ่า และทั่วโลกที่เชียร์บาร์เซโลน่า แต่ชีวิตคนเราเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอนจริงๆ ในช่วงเวลาที่เขากำลังติดปีกอยู่บนความสำเร็จมากมาย เขากลับต้องเจอช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตของอบิดัล เช่นกัน....

... 15 มีนาคม 2554 สโมสรบาร์เซโลน่า แถลงการณ์ว่า เอริค อบิดัล โชคร้ายเนื่องจากเขาถูกตรวจพบเนื้องอกที่ตับ ต้องเข้ารับการผ่าตัดด่วน ก่อนจะมาทราบภายหลังว่า อบิดัลเป็นโรคมะเร็งที่ตับ เรียกว่า ช็อคแฟนบอลไปตามๆกัน ในขณะนั้น อบิดัล ถือว่าเป็นฟั่นเฟืองสำคัญในแนวรับ เขาสามารถเล่นได้ทั้งแบ็กและเซนเตอร์ฮาล์ฟ ทีมกำลังอยู่ช่วงท้ายของฤดูกาลที่กำลังคั่วแชมป์หลายรายการ และนี่คือจุดเปลี่ยนชีวิตครั้งใหญ่ของเขา เขาต้องเปลี่ยนการใช้ชีวิตจากสนามบอลมาเป็นการรักษาตัวหลังผ่าตัดที่โรงพยาบาล ที่นี้ทำให้เขาค้นพบอะไรหลายๆอย่าง เขาเห็นเด็กที่ต้องมาเจ็บป่วย เห็นคนจน เห็นคนที่ไม่มีเงินจะมารักษาตัว และต้องพบตัวเองในสภาพของผู้ป่วย ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำให้เขาเกิดสัจธรรมในชีวิต เขาเคยเปิดใจว่า ต่อให้มีเงินมากมาย มีรถหรู ทุกอย่างก็ไร้ความหมาย หากต้องมาล้มป่วย

...เขามองว่าสิ่งต่างๆที่เข้ามาในชีวิตของเขา ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียง หรือเงินทอง ก็ไร้ค่าหากเขาต้องมาเจอโรคร้ายอย่างนี้ เขาคิดว่าคนเราควรบริจาค หรือนำเงินไปมอบให้โรงพยาบาล มูลนิธิต่างๆ เพื่อนำไปช่วยเหลือคนที่ด้อยโอกาส สิ่งที่เป็นกำลังใจสำหรับเขาในระหว่างการรักษาตัวคือเด็กๆในโรงพยาบาล และวงการฟุตอบลที่ยังให้กำลังใจเขา ทำให้สภาพจิตใจเขาเข้มแข็ง ก่อนทำเซอร์ไพรส์ด้วยการกลับมาคัมแบ็กลงสนามช่วงท้ายเกม ในเกมยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ที่พบกับ เรอัล มาดริด เมื่อฤดูกาลที่แล้ว จนสามารถช่วยทีมคว้าแชมป์ได้สำเร็จ ชีวิตที่เคยมืดมิดของอบิดัล กลับมามีความหวังอีกครั้ง จากนั้นเขากลายเป็นคนที่อุทิศตัวเพื่อการกุศลและการช่วยเหลือ ในขณะเดียวกัน เขาก็ยังต้องรักษาตัว เนื่องจากเขาเป็นโรคมะเร็งที่ตับ ต้องมีการรักษาอย่างต่อเนื่อง ตลอดเวลา อบิดัลต้องต่อสู้กับทั้งในสนาม และนอกสนามคือร่างกายของตัวเอง ถือเป็นเรื่องที่หนักมากสำหรับผู้ป่วยที่ต้องทำงานหนักในเกมลูกหนัง แต่ใจรักในฟุตบอล ใจรักในทีมบาร์เซโลน่า เขาจึงพยายามยืนหยัดและต่อสู้กับโรคร้าย เพราะเขาเคยพูดว่า หากบาร์เซโลน่าไม่ต่อสัญญากับเขา เขาคงต้องเลิกเล่นฟุตบอล เพราะความใฝ่ฝันของเขาคือการได้เล่นฟุตบอลและแขวนสตั๊ดที่คัมป์ นู 

.... หลังจากนั้นหนึ่งปี โรคร้ายกลับมาเล่นงานเขาอีกครั้ง จนต้องผ่าตัดปลูกถ่ายตับ โดยมี เซซาร์ พี่ลูกน้องของเขา บริจาคอวัยยะให้  การผ่าตัดปลูกถ่ายตับกินเวลานานร่วม 9 ชั่วโมง ถึงจะลุล่วงและปลอดภัย แต่ครั้งนี้หนักกว่าครั้งแรกที่ผ่าตัดเนื้องกบริเวณตับ ต้องใช้เวลาพักฟื้นไม่มีกำหนด จนหมอต้องแนะนำให้ อบิดัลเลิกเล่นฟุตบอล เพราะหวั่นว่าจะถูกปะทะบริเวณแผลผ่าตัด ซึ่งสำคัญมากกับชีวิตเขา เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากอีกครั้งของ อบิดัล และบาร์เซโลน่า รวมถึงทีมชาติฝรั่งเศสอาจไม่สามารถใช้งาน อบิดัล ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปหรือ ยูโร 2012 กลางปีนี้ 

...หลังการผ่าตัด อบิดัล ยังเป็นนักกีฬาที่มีน้ำใจงดงาม เขาส่งสารและกำลังใจไปยัง ฟาบริซ มูอัมบ้า ที่โชคร้ายช็อคคาสนามต้องส่งโรงพยาบาลเพื่อยื้อชีวิตเป็นการด่วน เขายังมีน้ำใจต่อเพื่อนร่วมโลกอีกมากมาย เขามอบนาฬิกาโรเล็กช์ ที่สั่งทำเฉพาะให้แก่นักเตะบาร์เซโลน่า ราคาเฉียดล้าน แก่เจ้าหนูวัย 9 ปีที่ป่วยเป็นมะเร็งเช่นเดียวกันกับเขา  ระหว่างที่เขาเดินทางเยี่ยมโรงพยาบาลท้องถิ่น และเยี่ยมให้กำลังใจเด็กคนอื่นๆต่อไป
,ทางบาร์เซโลน่าเปิดห้องแต่งตัวต้อนรับ อัลฟอนโซ่ การ์เซีย แฟนบอลหนุ่มที่ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย เรื่องราวของเขาถูกตีแพร่ทั่วสเปนหลังจากเขาบอกกับแม่ว่า หากเขาตาย ให้นำถ้ำกระดูกโปรยรอบๆสนามคัมป์นู หลังจากต่อสู้มะเร็งกว่า 12 ปี เขาได้พบกับนักเตะทั้ง เมสซี่ อิเนสต้า รวมถึงคนอื่นๆ และอบิดัลก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ให้กำลังใจหนุ่มน้อยอย่างเข้าอกเข้าใจ เนื่องจากต้องต่อสู้กับโรคเดียวกัน และบอกอัลฟอนโซ่ว่า พระเจ้าจะช่วยให้เราทั้งคู่หายดี ทำเอาเด็กน้อยคนนั้นมีความสุขและบอกว่า หากตายก็คงตายตาหลับ...

เอริค อบิดัล อาจจะไม่ใช่นักกีฬาที่เก่ง จนถูกนำมาพูดถึงไม่รู้จบ เหมือนตำนานคนอื่นๆ แต่เรื่องราวการต่อสู้ทั้งในและนอกสนาม เป็นกำลังใจที่ดีที่มีต่อเพื่อนร่วมโลกที่ต้องเจอโรคร้าย ก็คงไม่มีใครในโลกลืมได้ เขาคือตัวอย่างของนักกีฬาที่มีหัวใจไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา  แม้ไม่รู้ว่าโรคร้ายนี้จะเล่นงานเขาอีกเมื่อไหร แต่ผมเชื่อใจว่าเขาจะผ่านมันไป เพราะหัวใจของอบิดัลไม่เคยยอมแพ้ .... Animo Abidal .
9Torday

วันอาทิตย์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2555

เดอะ เมธขอสอง ! เพชรบุรีเฉือนหืด มาบตาพุด นย. 2-1


เดอะเมธขอสอง ! เพชรบุรีเฉือนหืด มาบตาพุด นย. 2-1





..ที่สนามกีฬากลางดอนคาน วัวทะโมนเพชรบุรี เอฟซี ทีมอันดับ 5 ของตาราง เปิดรังต้อนรับการมาเยือนของ พยัคฆ์บูรพามาบตาพุด นาวิกโยธิน ระยอง ทีมอันดับ 7 ที่ทำผลงานค่อนข้างดีในซีซั่นนี้ ทีมเยือนมีปัญหาเรื่องตัวผู้เล่น สมศักดิ์ ภูสมนึก กัปตันทีมจอมแกร่งได้รับบาดเจ็บในเกมที่แพ้อ่างทอง ทำให้ไม่มีชื่อลงสนามเกมนี้ แต่มี วิลเลี่ยม เอ็นจูเม่ , ปราโมทย์ เข็มเพ็ชร์ และ ธีรพล นาคทอง เป็นตัวหลัก ส่วนเจ้าบ้านวันนี้ขาดกัปตันเดฟ สมประสงค์ ชื่นจันทร์ที่ยังเจ็บอยู่ ตัวผู้เล่นใช้ชุดเดิมจากนัดที่บุกไปยันเสมอ ประจวบ เอฟซี มี สุเมธ จิตต์กลาง , สุจริตพงษ์ น้อยโสภา และ ณัฐวุฒิ แสงดารา ลงเฝ้าเสา





 ...เกมเริ่มต้นขึ้น ทั้งสองยังคงไม่เปิดเกมรุกใส่กันมากนัก ใช้การชิงจังหวะ ดูเชิงกันอยู่ และค่อยๆต่อบอลเข้าทำจนกระทั่งน.10 ศิริศักดิ์ ฟูฟุ้ง ของ มาบตาพุดฯ เก็บตกนอกกรอบเขตโทษ ก่อนจะลองยิงดูแต่ก็ข้ามคานออกไป น.19  หมายเลข 5 ซานโย่ จิซลิน ได้ลองส่องไกลดูบ้างแต่บอลเข้ามือผู้รักษาประตูเพชรบุรีเอฟซี จากกันทั้งสองทีมเริ่มทำเกมกันได้มากขึ้น น.31 ณัฐวุฒิ แสงดารา ออกมารับลูกโยนของมาบตาพุด แต่ไปชนกับ อนุรักษ์ กมลวิจิตร์ ก่อนที่บอลจะหลุดมือแล้วไปเข้าทาง ชัยยุทธ์ เบ้าทุมมา ที่ยืนรอส้มหล่นอยู่ ก่อนที่ถูกนายทวารเพชรบุรี เอฟซี ดึงลูกล้มในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินไกรวุฒิ กลิ่นพูล ไม่ลังเล แจกใบเหลืองให้ผู้รักษาประตูเพชรบุรี และเป่าให้เป็นจุดโทษทันที
, สุทธิพงษ์ สุธงษา รับหน้าที่ซัดเข้าไป ทีมเยือน พยัคฆ์บูรพาบุกมานำวัวทโมน ก่อน 1-0 หลังจากเสียประตู เพชรบุรี เอฟซี ก็โหมบุกเข้าใส่ทีมเยือนไม่ยั้ง และช่วงทดเวลาบาดเจ็บ จังหวะโยนยาวเข้ามาจากกองหลังเพชรบุรี รชต ชัยจันทร์ วิ่งเข้าไปในกรอบเขตโทษ แต่ถูก อาทิตย์ ทับทิมใหม่ นายทวารมาบตาพุดฯ เข้าปะทะ ผู้ตัดสินให้เป็นลูกจุดโทษของทีมเยือนบ้าง และ สุเมธ จิตต์กลาง จัดการยิงเต็มเข้าไปสุดสวย ให้เพชรบุรีฯ ตีตื้นมาเป็น 1-1 ก่อนที่จะจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้...



(ผู้เล่นของมาบพาพุด นย.ระยอง ออกอาการดีใจหลังจากขึ้นนำไปก่อน)



(สุเมธ จิตต์กลาง ผู้ทำประตูตีเสมอ ช่วงท้ายครึ่งแรก)


...ครึ่งหลังทั้งสองทีมเริ่มปะทะกันหนักขึ้นหลายจังหวะ จนเกมหยุดไปหลายครั้ง น.60  พชร หลักโลก ตัวสำรองของเพชรบุรีฯ ทำซิ่ง ก่อนจ่ายทะลุช่อง มาถึงสุเมธ จิตต์กลาง ดาวยิงตัวเก่งได้ยิง แต่ไม่ผ่านมือ อาทิตย์ ทับทิมใหม่ เกมมาตรึงเครียดมากขึ้นเมื่อ น.62 สุเมธ จิตต์กลาง มีปัญหากับ ตูโค้ ลิโอเนล จนเกือบวางมวยจากจังหวะที่เบียดบังบอลและปะทะกันตรงมุมธง ทำให้ผู้เล่นสองทีมต้องวิ่งเข้าไปห้าม ทั้งลีโอเนล และ สุเมธ ให้อารมณ์เย็นลงแต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ในที่สุด เพชรบุรี เอฟซี ก็มาฮึดแซงขึ้นนำจนได้ น.65 เอกราช สามแอม ปีกซ้ายของเพชรบุรีฯ ยกบอลข้ามกองหลังมาบตาพุด  หมายเลข 20  สุเมธ จิตต์กลาง โหม่งสะบัดย้อย หนีมือผู้รักษาประตูมาบตาพุด ที่วิ่งออกจากปากกประตู เข้าไปสุดสวย เพชรบุรี ออกนำ ทีมเยือน 2-1 น. หลังจากนั้นมาบตาพุดพยายามบุกมากขึ้น แต่ก็ได้มีแค่เกือบมีลุ้น จากนั้น น.77 รชต ชัยจันทร์ กระโดดขึ้นโหม่งบอลแต่ไปโดนศอกของ ตูคู ลิโอเนล ลงไปนอนนิ่งกับพื้น ทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่ ต้องเข้าไปปฐมพยาบาลเป็นการด่วน เพราะนักเตะอาการไม่สู้ดีนัก การปฐมบาลเป็นไปด้วยความวิตกของกองเชียร์และผู้เล่นในสนามที่ลุ้นไม่ให้นักเตะเป็นอะไร สุดท้าย  รชต ชัยจันทร์ ก็ลุกขึ้นได้ท่ามกลางความโล่งอกของหลายฝ่ายๆ แต่ยังไม่ทันที่จะเปลี่ยนตัวสำรองลงไปแทน รชต ชัยจันทร์ ทันใดนั้น เจ้าเต้ สุจริตพงษ์ น้อยโสภา แบ็กขวาเพชรบุรี เกิดอาการวูบ ล้มลงไปเช่นกัน โดยที่ไม่ได้ปะทะกับใคร ทำให้แพทย์ต้องเข้าไปเช็คอาการเจ้าเต้อีกครั้ง การฐมพยาบาลกินเวลาไปพอสมควร ก่อนที่จะหามสุจริตพงษ์ ออกจากสนาม แล้วเปลี่ยนเอา เอกชัย จุมพิต ลงแทน ส่วน รชต ชัยจันทร์ ก็ต้องกัดฟันเล่นต่อไป เนื่องจากเปลี่ยนครบ 3 คนแล้ว..




(เจ้าหน้าที่่รีบวิ่งไปดูอาการ ของ รชต ชัยจันทร์ เป็นการด่วน)



(สุจริตพงษ์ น้อยโสภา ถูกหามออกจากสนาม หลังวูบลงไป)

น.88  เอกชัย จุมพิต โยนบอลจากด้านข้างเข้า  พชร หลักโลก ได้โอกาสยิงแต่ยังติดเซฟของ อาทิตย์ ทับทิมใหม่  จากนั้นมาบตาพุดก็เปิดหน้าแลกกับเพชรบุรีต่อเนื่อง แต่ก็ถูกสวนกลับมาใน น.90 ยงศักดิ์ กันทุกข์ ใช้ความเร็วสปีดหนีล็อกผู้เล่นมาบตาพุด 2 คน ก่อนจะหลุดเดี่ยวเข้าไป และถูกกองหลังตัวสุดท้าย ตูโค้ ลิโอเนล กระแทกล้มไป ผู้ตัดสินให้เพียงใบเหลืองเท่านั้น ท่ามกลางความไม่พอใจของกองเชียร์เจ้าถิ่น ผู้ดัดสินทดเวลาบาดเจ็บให้ 8 นาที  น.92 เอกราช สามแอม วิ่งมาปั่นฟรีคิกบอลเข้าสามเหลี่ยมแต่ถูกประตูมาบตาพุด ปัดออกไปได้อย่างเหลือเชื่อ จากนั้น มาบตาพุดกดดันเพชรบุรีอยู่ฝ่ายเดียว จนเกือบมาตีเสมอได้ จาก หมายเลข 10 ดนัย เสาทอง ซัดฟรีคิกพุ่งไปชนคานแบบจัง ทำเอากองเชียร์เจ้าถิ่นหัวใจแทบวาย ก่อนที่เพชรบุรีจะรับอย่างแน่นหนา หมดเวลา เพชรบุรี เอฟซี  เฉือน มาบตาพุด นย.ระยอง ไปได้สนุก 2-1 ....


 


                         

**หมายเหตุ หลังจากจบเกม รชต ชัยจันทร์ ที่ฝืนลงเล่นต่อทั้งที่มีอาการบาดเจ็บตรงท้ายทอย ถึงกับทรุดลงไปนอนกับพื้นอีกครั้ง ทันทีที่ผู้ตัดสินเป่าหมดเวลา ทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่ต้องไปเข้าไปดูอาการอีกครั้ง ก่อนที่จะหาม รชต ชัยจันทร์ ไปส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วน






เพชรบุรี เอฟซี : ณัฐวุฒิ แสงดารา, สุจริตพงษ์ น้อยโสภา (เอกชัย จุมพิต น.84), อรุณ กอวิจิตร์ (ธีรพงษ์ สว่างศรี น.65), อนุรักษ์ กมลวิจิตร์, สาโรจน์ โพธิ์มี, อนุชา สุกใส (พชร หลักโลก น.43),  ริชาร์ดส์ อาโบกาเย่ มิเรกู, เอกราช สามแอม, ยงศักดิ์ กันทุกข์, รชต ชัยจันทร์, สุเมธ จิตต์กลาง(กัปตันทีม)

มาบตาพุด นาวิกโยธิน ระยอง : อาทิตย์ ทับทิมใหม่,อาทิตย์ บทมาตย์,ซานโย่ จิสลิน,ตูโค้ ลิโอเนล,เอ็นจูเม่ วิลเลี่ยม (ดนัย เสาทอง น.58) ,ชัยยุทธ เบ้าทุมมา,ปราโมทย์ เข็มเพ็ชร์,วิศาล เกียรติยศไกร,ศิริศักดิ์ ฟูฟุ้ง,ธีรพล นาคทอง(กัปตันทีม) (ศุภมิตร ฉันทกิตติชัย น.65), สุทธิพงษ์ สุธงษา




แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : สุเมธ จิตต์กลาง ไร้ข้อกังขาสำหรับแมตช์นี้ ทุ่มเท ขยัน ไล่บอล พาบอล รวมถึงเป็นกองหน้าที่ดุดันมากขึ้น แม้จะเสียตรงที่ฟิวส์ขาดไปหลายจังหวะ แต่ 2 ประตู บวกกับความทุ่มเทของเดอะ เมธ วันนี้คงไม่มีใครเด่นกว่าเขาอีกแล้ว ส่วนฝั่ง มาบตาพุด ยกให้ ธีรพล นาคทอง กัปตันทีม เข้าตัดเกม ปะทะและดุดันไม่แพ้กัน คุมแนวรับได้ดี น่าเสียดายที่ถูกเปลี่ยนตัวไวไปเพราะมีใบเหลืองติดตัวอยู่ ทำให้แนวรับจ่ายบอลพลาดกันง่ายขึ้น นำมาสู่ประตูที่สองของเพชรบุรีนั่นเอง 




วิจารณ์หลังเกม : มาบตาพุด นย. ทำโอกาสหลุดมือเอง เพราะได้ประตูขึ้นนำก่อนแท้ๆ แต่กลับคุมเกมไม่ได้ สุดท้ายเจอทีเด็ดของสุเมธ ิจิตต์กลาง เล่นเอากองเชียร์ทีมเยือนปวดใจแน่ๆ แนวรับของ มาบตาพุดในครึ่งหลัง ดูผิดพลาดเยอะขึ้น จ่ายบอลเสียง่าย รวมถึง สมาธิกับเกมแทบไม่มี ทำให้เพชรบุรีเล่นงานในช่วงที่ มาบตาพุดยังเสียทรงอยู่ แม้ท้ายเกมจะบี้เพชรบุรีได้เยี่ยม หากเล่นแบบท้ายเกมคงมีแต้มกลับไป ส่วนเพชรบุรี วันนี้จิตใจนิ่งมาก แม้จะมีหลุดบางจังหวะ ถูกนำไปก่อนแต่ก็พลิกมาชนะ น่าเสียดายที่ต้องสังเวย 3 นักเตะกับเกมนี้ แต่ก็ถือทำผลงานได้ดีไม่น้อยเลยสำหรับวัวทะโมนในเกมนี้ ฉกฉวยความผิดพลาดของทีมเยือน นำมาสู่  3 แต้มอีกครั้ง ..













....Report by torday
..Photo Credit: P'nook Baan-pai
..18/03/12


วันอาทิตย์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2555

ดาร์บี้แมตช์!ประจวบเอฟซี เจ๊าเพชรบุรีเอฟซี 1-1 ร่วงจ่าฝูง



ดาร์บี้แมตช์!ประจวบเอฟซี เจ๊าเพชรบุรีเอฟซี 1-1 ร่วงจ่าฝูง








..........ที่สนาม อบจ.ประจวบ เจ้าบ้าน ต่อพิฆาตประจวบเอฟซี ทีมอันดับ 1 ของตาราง เปิดบ้านพบกับ วัวทะโมนเพชรบุรี เอฟซี ทีมอันดับ 4 ของตาราง สำหรับเจ้าบ้านหมายหมายมั่นปั่นมือเอาชนะเพชรบุรีให้ได้ หลังจากซีซั่นที่แล้วแพ้เพชรบุรี ทั้งไปกลับ โค้ชเจตนิพัตน์ รชตเฉลิมโรจน์ วางหมากใช้ มูซา บาซิรู,บุญเสริม ภู่รัตน์ และ อดิศักดิ์ ศักดิ์บุญ ลงเป็นแกนหลัก ด้านทีมเยือน เพชรบุรี เอฟซี ปรับเปลี่ยนผู้เล่นจากนัดที่แล้วโดยส่ง เอกราช สามแอม ลงแทน บุญญฤทธิ์ ห้องจู ส่วนตัวหลักยังครบครันทั้ง สุเมธ จิตต์กลาง , อนุชา สุกใส และสมประสงค์ ชื่นจันทร์ ที่กลับมาเป็นกัปตันทีมอีกครั้ง...



(สองกัปตันทีม บุญเสริม ภู่รัตน์ และ สมประสงค์ ชื่นจันทร์ จับมือกันก่อนเกม)








...เริ่มเกมทั้งสองทีมยังพยายามต่อบอลเข้าทำ แต่เนื่องจากฝนที่ตกลงมา ทำให้สภาพสนามมีน้ำขัง จึงต้องมาเน้นบอลโยนแทน นาทีที่ 5 รชต ชัยจันทร์ ดาวยิงรูปหล่อมีโอกาสเปิดบอลเข้ามา บอลตกพื้นติดน้ำ ก่อนที่ สุเมธ จิตต์กลางจะได้ลองยิงหน้ากรอบประตู แต่เบาเกินไปเข้ามือ เทิดศักดิ์ สร้อยเสนา นายทวารประจวบเอฟซี รับแบบไม่ยากเย็น จากนั้นประจวบชิงจังหวะได้ดีกว่าจนกระทั่งมีจังหวะปัญหาเกิดขึ้น นาทีที่ 22 อดิศักดิ์ ศักดิ์บุญ ผู้เล่นหมายเลข 11 ของประจวบเอฟซี ลองยิงไกล บอลพุ่งเสียบใต้คาน ตกมากระเด็นใส่ตัว ณัฐวุฒิ แสงดารา ที่ตัวถลำไปปัดในโกล์ ลูกบอลดันแฉลบออกออกไปด้านข้างประตู ผู้เล่นประจวบเอฟซี พยายามประท้วงว่า ลูกบอลได้เข้าประตูไปแล้วแต่ไหลออกข้างตะข่าย แต่ผู้ตัดสิน และผู้กำกับเส้นไม่ได้เป่าให้ประตู จึงป็นลูกเตะมุมของประจวบเอฟซีแทน นาทีที่ 28 บุญเสริม ภู่รัตน์ กัปตันทีมประจวบเอฟซี ได้จังหวะลองส่องไกลดูบ้าง บอลเบี่ยงเสาออกไปนิดเดียว , ประจวบเอฟซี เริ่มตั้งเกมโหมบุกใส่เพชรบุรี เป็นชุดหวังทำประตูขึ้นนำให้ได้ โดยใช้เกมแดนกลางกดดัน แต่ก็ยังขาดๆเกินๆในจังหวะสุดท้าย และนาทีที่ 43 กองเชียร์เพชรบุรีแทบอยากจะเอาหน้ามุดอัศจรรย์ให้รู้แล้วรู้แรดไปเลย เมื่อแนวรับเพชรบุรี โยนบอลยาวมาสวย รชต ชัยจันทร์ วิ่งฉีกแผงหลังประจวบ หลุดเดี่ยวเข้าไปดวลตัวต่อตัว กับ ผู้รักษาประตูประจวบเอฟซี ซึ่งเกือบจะถึงกรอบเขตโทษอยู่แล้ว แต่รชต ชัยจันทร์ ดันจับบอลพลาด บอลห่างตัว เข้าทาง เทิดศักดิ์ สร้อยเสนา ออกมาสไลด์ตัดบอลได้ทัน พลาดโอกาสขึ้นนำไปอย่างน่าเสียดาย และช่วงทดเจ็บครึ่งแรก บุญเสริม เจ้าเก่าโยนฟรีคิกด้านข้างสุดสวยมาถึง อดิศักดิ์ ศักดิ์บุญ ที่รออยู่เสาสอง มีโอกาสล่อเป้าโล่งๆ ดันยิงชิบข้ามคานออกไป พร้อมกับผู้กำกับเส้นยกธงล้ำหน้าพอดี จบครึ่งแรก ประจวบ ยังเจาะ เพชรบุรีไม่เข้า เสมอไป 0-0








.....เริ่มครึ่งหลังมา นาทีที่ 50 รชต ชัยจันทร์ ได้โอกาสหลุดขึ้นมาอีกครั้ง ล็อกหลบผู้รักษาประตูประจวบ ที่ออกมาตัดบอลพลาด ทำให้ รชต ซึ่งมีโอกาสลากเข้าไปยิงโล่งๆ แต่สุดท้ายเสียเหลี่ยมกองหลังประจวบที่เบียดมาด้วยกัน แซะบอลออกข้างไปอย่างน่าเสียดายอีกครั้ง นาทีที่ 53 ประจวบสวนกลับขึ้นมา หมายเลข 9 เอกพจน์ คงเกตุ ตัวสำรองที่ลงมาต้นครึ่งหลัง ลากหลบกองหลังเพชรบุรีไป 3 คนก่อนจะยิงเต็มข้อ แต่เข้ามือของณัฐวุฒิ แสงดารา จอมหนึบทีมเพชรบุรี  ความพยายามของประจวบมาสำเร็จจนได้ นาทีที่ 59 กวาเย่ ฮอมเลส เซอร์เก เก็บตกหน้ากรอบเขตโทษเพชรบุรี แต่งหนึ่งจังหวะแล้วยิงเข้าประตูไปได้ ประจวบเอฟซี ขึ้นนำ เพชรบุรีเอฟซี 1 – 0 แต่แล้วทีมเยือน ไม่ยอมตายง่ายๆ มาตีเสมอได้สำเร็จ ในนาทีที่ 63 ในจังหวะที่สุเมธ จิตต์กลาง กองหน้าจอมทุ่มเท ซัดบอลเข้าประตูถูก เทิดศักดิ์ สร้อยเสนา ปัดบอล แต่บอลมาเข้าทาง ยงศักดิ์ กันทุกข์ จับบอลหนึ่งจังหวะแล้วกดเข้าไปอย่างไม่ยากเย็น ทีมเยือนไล่ตีเสมอทันควัน 1-1 จากนั้นทั้งสองทีมพยายามเปิดเกมรุกใส่กัน แต่สภาพสนามที่มีน้ำขังทำให้จังหวะไม่ต่อเนื่องเท่าที่ควร นาทีที่ 72 เอกพจน์ คงเกตุ ได้โอกาสยิงจ่อๆในเขตโทษ แต่ติดกองหลังเพชรบุรี บอลมาเข้าเท้า ผู้เล่นประจวบวิ่งมาซ้ำเน้นๆ แต่ดันไปติดเซฟ ณัฐวุฒิ แสงดารา ก่อนที่จะถูก สาโรจน์ โพธิ์มี แบ็กดาวรุ่งสกัดทิ้งแบบหวุดหวิด ช่วงท้ายเกม เอกพจน์ คงเกตุ ยังปั่นป่วนแนวรับเพชรบุรีได้อีกครั้ง สับไกลบอลเฉียดเสาออกไปแบบได้ลุ้น และช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นาทีที่ 92 เป็น บุญเสริม ภู่รัตน์ ลองส่องฟรีคิกแบบได้ลุ้น แต่ก็ไม่มีปัญหาสำหรับ ณัฐวุฒิ แสงดารา  จบเกมเพชรบุรี บุกไป แชร์ 1 แต้มสำคัญจาก ประจวบ เอฟซี ได้สำเร็จ พร้อมส่งประจวบ ร่วงจ่าฝูงหลังจากชนะรวด มา 3 นัดติดต่อกัน ... ส่วนเพชรบุรี รั้งอันดับ 5 มี 8 คะแนน จาก 4 นัด







ประจวบ เอฟซี : เทิดศักดิ์ สร้อยเสนา, โตบิท (กามาร่า มูซซ่า น.63), บุญเสริม ภู่รัตน์(กัปตันทีม), สัจจะพงษ์ แซมจะบก(เอกพงษ์ คงเกตุ น.45), อดิศักดิ์ ศักดิ์บุญ(เอกลักษณ์ ลงนาม น.84), มูซ่า บาซิรู, กวาเย่ เฮอร์เลส เซอร์เก, ปิยะณัฐ ชาญรัมย์, ณัฐพล อ่อนจ้อย, นุกุลกิจ ครุฑใหญ่, สุวิชัย ไชยสุวรรณ


เพชรบุรี เอฟซี : ณัฐวุฒิ แสงดารา , สุจริตพงษ์ น้อยโสภา , สมประสงค์ ชื่นจันทร์(กัปตันทีม)(อรุณ กอวิจิตร์ น.30), อนุรักษ์ กมลวิจิตร, สาโรจน์ โพธิ์มี, เอกราช สามแอม, อนุชา สุกใส, ริชาร์ด อาโบกเย่ มิเรกู, ยงศักดิ์ กันทุกข์, รชต ชัยจันทร์, สุเมธ จิตต์กลาง( เดวิด ลาคอร์เตย์ น.85)










(No.21 ยงศักดิ์ กันทุกข์ ผู้ทำประตูตีเสมอให้เพชรบุรี เอฟซี


แมนออฟเดอะแมตช์ อดิศักดิ์ ศักดิ์บุญ จี๊ดจ๊าดและสร้างสรรค์เกมได้ยอดเยี่ยม วันนี้โชว์ฟอร์มให้ประจวบได้ไม่ธรรมดา จังหวะต่อบอล ทำซิ่ง หาพื้นที่ อดิศักดิ์ เล่นได้ดีแม้จะไม่ใช่แนวถนัดของประจวบ ที่ต้องมาเล่นบอลโยน ส่วนเพชรบุรี ให้ ยงศักดิ์ กันทุกข์ ผู้ทำประตูตีเสมอ สร้างมิติเกมริมเส้นได้ดี ปรับเปลี่ยนการเล่น และนัดนี้ทำได้ค่อนข้างดี ผิดกลับสองสามนัดก่อน ที่เล่นต่ำกว่ามาตรฐาน สำหรับ น้าโก๋ ของเรา..











วิจารณ์หลังเกม : เกมนี้น่าเสียดายแทนประจวบเอฟซี สำหรับลูกปัญหาที่น่าจะได้แต่ผู้ตัดสินไม่ให้ ประจวบยุค 2012 เน้นการต่อบอล แล้วทำซิ่ง โดยใช้ผู้เล่นความสามารถสูงอย่าง หมายเลข 11 และ 15 เข้าบดแผงกลางเพชรบุรีกระจายทำให้เพชรเสียรูปเกมไปในช่วงครึ่งแรก โชคดีที่ฝนตกด้วย ทำให้ประจวบสร้างสรรค์เกมรุกกับพื้นไม่ค่อยถนัด ต้องเปลี่ยนสไตล์การเล่น ส่วนเพชรบุรี วันนี้เอาตัวรอดมาได้ แผงหลังยังยอดเยี่ยม แม้จะมีจังหวะผิดพลาดบ้างเล็กน้อย แต่ก็เพราะสภาพสนามแบบนั้นคงเล่นยาก เพชรบุรี พยายามดักทางบอลประจวบ แต่เหมือนจะไม่ค่อยทัน จังหวะสุดท้ายของรชต ชัยจันทร์ ยังใช้ไม่ได้ผล เกมเป็นรองแต่ก็ยังเอาตัวรอดเสมอมาได้ น่าเสียดายที่ช่วงท้ายเกม ผู้เล่นแนวรับประจวบ มีแผ่วให้เห็น แต่เพชรบุรีกลับไม่มีการเปลี่ยนตัวที่สดๆลงไปแทนตัวเก่าที่หมดแรง เพราะสนามแบบนี้ต้องใช้แรงวิ่ง แรงส่งบอล มากกว่าเดิม 2 เท่า รวมๆประจวบเกมเหนือกว่า แต่เพชรบุรี ดวงดีกว่า
















Report  by Torday 
Photo Credit: P'nook  Baan-Pai
11/02/12




วันเสาร์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2555

วัวทโมนคึก!เพชรบุรี เอฟซี เปิดรังเฉือน “ฉะเชิงเทราเอฟซี” 1-0


วัวทโมนคึก!เพชรบุรี เอฟซี เปิดรังเฉือน ฉะเชิงเทราเอฟซี1-0





ที่สนามกีฬากลางดอนคาน จ.เพชรบุรี  วัวทะโมนเพชรบุรีเอฟซี ทีมอันดับ 4 ของตาราง เปิดบ้านรับการมาเยือนของ ปลากัดนักสู้ฉะเชิงเทราเอฟซี ทีมอันดับ 8 เจ้าบ้านใช้ อนุรักษ์ กมลวิจิตร์ , สุเมธ จิตต์กลาง และ ริชาร์ดส มิเรคู เป็นตัวหลัก ด้านทีมเยือน ของ โค้ชตู่ พนิพล เกิดแย้มจัดทัพใหญ่เช่นกัน นำโดย ศัตรูพ่าย ศรีณรงค์ , เอกวิทย์ ใจนวน และ กฤษณา แสงเพชร ลงเป็นตัวจริง





..เปิดเกมมาทั้งสองทีม ต่างเปิดเกมรุกเข้าใส่กัน โดยใช้การต่อบอล เพรสซิ่งกดดันคู่ต่อสู้ จนกระทั่ง นาทีที่ 10 สุเมธ จิตต์กลาง กัปตันทีมเพชรบุรีเอฟซี ได้จังหวะยิงไกลนอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งมาถึงผู้รักษาประตูฉะเชิงเทรา ปัดมาเข้าทาง รชต ชัยจันทร์ กองหน้าเพชรบุรี เข้าฮอร์สจ่อๆ ไม่เหลือซาก เพชรบุรีขึ้นนำอย่างรวดเร็วไปก่อน 1-0 , นาทีที่ 15 ศัตรูพ่าย ศรีณรงค์ ตัวเก่งของฉะเชิงเทราได้โอกาสส่องฟรีคิก บอลเฉียดเสาออกไปนิดเดียว จากนั้นเพชรบุรีอาศัยสกอร์ที่นำก่อน เริ่มคุมเกมได้มากขึ้น แต่ฉะเชิงเทราก็พยายามบุก จนเกือบมาได้ประตูตีเสมอ จากลูกฟรีคิกในนาทีที่ 37 ศัตรูพ่ายเจ้าเก่า โยนเข้ามาจากด้านข้าง และ สุจริตพงษ์ น้อยโสภา แบ็กเจ้าถิ่นสกัดเกือบผิดเหลี่ยม ข้ามคานไปอย่างหวุดหวิด ท้ายครึ่งแรก ฉะเชิงเทรา ใช้เกมด้านข้างโยนเข้ามาในหลายจังหวะแต่ทำได้แค่หวาดเสียว หมดครึ่งแรก ฉะเชิงเทรา ตามหลัง เพชรบุรี 0-1







.....เริ่มครึ่งหลัง ได้ไม่นาน เพชรบุรีเอฟซี มา
ได้ฟรีคิกในนาทีที่ 50 ระยะเกือบ 35 หลา และเป็นสุจริตพงษ์ น้อยโสภา วิ่งมาซัดเต็มข้อ เฉี่ยวคานออกไปหวุดหวิด , จากนั้นทั้งสองทีมเปิดเกมแลกกันอย่างเต็มที่ ปะทะกันหนักขึ้น จนกระทั่งมีจังหวะที่ อนุชา สุกใ ปะทะกับ กฤษฏา แสงเพชร และมีปากเสียงกันเล็กน้อย ก่อนที่นักเตะทั้งสองทีมจะกรูเข้าหากัน แต่โชคดีที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น , นาทีที่ 75 อนุรักษ์ กมลวิจิตร เซ็นเตอร์ฮาล์ฟวัวทโมน ได้โอกาสลากล็อกหลบกองหลังทีมเยือน เข้าไปถึงกรอบเขตโทษ ก่อนถูกเบียดล้มลงไป แต่ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไร ทั้งสองทีมเปิดฉากใส่กันมากขึ้น ผลัดกันรุกและรับ และมีโอกาสบวกสกอร์ทั้งสองฝ่ายแต่ก็ได้แค่หวาดเสียว ช่วงท้ายเกม หมายเลข 13 ยุทธิชัย เหลี่ยมไกล กองหลังทีมเยือน ได้โอกาสตะบันเต็มข้อเกือบครึ่งสนาม บอลกระดอนพื้นก่อนที่ ณัฐวุฒิ แสงดารา โกล์ทีมเพชรบุรี ปัดบอลพลาด แต่โชคดีที่บอลกระเด็นหลุดกรอบไปอย่างน่าเสียดาย เพชรบุรีเอฟซี เกือบมาได้ประตูย้ำชัย จากจังหวะสวนกลับเร็ว สาโรจน์ โพธิ์มี ทำซิ่งให้กับ บุญญฤทธิ์ ห้องจู หลุดเข้าไปล็อกกองหลังก่อนจะยิงไปติดตัวผู้เล่นทีมฉะเชิงเทราไปอย่างน่าเสียดาย จบเกม เพชรบุรี เอฟซี เอาชนะ ฉะเชิงเทรา เอฟซี สุดมันส์ 1-0



(No.20 สุเมธ จิตต์กลาง รับบทเป็นกัปตันทีมเพชรบุรี เอฟซี ครั้งแรก)




เพชรบุรี เอฟซี , ณัฐวุฒิ แสงดารา , สุจริตพงษ์ น้อยโสภา,อนุรักษ์ กมลวิจิตร์,สมประสงค์ ชื่นจันทร์,สาโรจน์ โพธิ์มี, ยงศักดิ์ กันทุกข์,อนุชา สุกใส(จิรทิปต์ สุขประเสิร์ฐ น.67),ริชาร์ด อโบกาเย่ มิเรกู,บุญญฤทธิ์ ห้องจู, รชต ชัยจันทร์(อรุณ โตเที่ยง น.89),สุเมธ จิตต์กลาง(กัปตันทีม)


ฉะเชิงเทราเอฟซี
: ธีรพงษ์ พุทธสุขา , กิตติคุณ บุญเจริญธรรม(สุขุม สิมะขจรเกียรติ น.86),นราธิ ดาโอะ,ยุทธิชัย เหลี่ยมไกล,เอกวิทย์ ใจนวน(จิราชัย ละดาดก น.50),ศัตรูพ่าย ศรีณรงค์,กิตติศักดิ์ ศรีสมบัติ,กวีพันธ์ ทวีบุตร,สมเกียรติ อู่สุนทร(ณรงค์ฤทธิ์ พวงดอกไม้ น.75),มานพ สีสำราญ(กัปตันทีม),กฤษฏา แสงเพชร




(ผู้ยิงประตูชัย No.13 รชต ชัยจันทร์)

วิจารณ์หลังเกม : เกมนี้ถือเป็นของชอบเพชรบุรีเอฟซี ที่เก่งเรื่องการสวนกลับ เจอบอลบุกแบบนี้เข้าทางปืนครับ เปิดหน้าแลกกันสนุก แต่ก็แหงละครับปัญหาเดิม จบสกอร์ไม่ลง หน้าฝืดชนิดที่เรียกว่า เอาซิงเกอร์มาหยอดคงไม่หาย เพชรมีโอกาสทำไม่ได้ ยิงทิ้งยิงขว้าง ยังต้องแก้ไขต่อไป ส่วนวันนี้ ฉะเชิงเทรา เล่นได้ดีมาก เล่นตามแท็คติค มีจังหวะเกมรุกที่น่ากลัว เพียงแต่ฟุตบอลไม่มีคะแนนความเสียวไม่งั้นคงได้เต็มไปแล้ว ฮ่าๆ เอาตัวไปรอดไป รอดูพัฒนาการต่อไป



แมนออฟเดอะแมตช์ : ริชาร์ด มิเรคู กองกลางเพชรบุรีเอฟซี ดักเกม ตัดเกมได้ดี เชื่อมเกมได้ไม่เลว ส่วนของฉะเชิงเทรา ให้ ศัตรูพ่าย ศรีณรงค์ ประสบการณ์ไทยลีกช่วยทีมได้เยอะจริงๆ 


(No.31 ริชาร์ด มิเรกู Mr.Richard Aboagye Mireku  )





         


Report by : Torday 
                   Credit Photo : P'nook Baan-Pai
Date : 03/03/12